Tag

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

8 วิธีเพิ่มสุขด้วยใจ

การดำเนินชีวิตของคนในยุคปัจจุบันต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วย ปัจจัยที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล อึดอัดคับข้องนานัปการ จึงอาจกล่าวได้ว่าตั้งแต่เริ่มต้นของวัน เราจะต้องผจญกับปัญหาต่างๆ เช่น สภาพการจราจรที่ติดขัด การตกอยู่ท่ามกลางภาวะดิ้นรนแข่งขัน ปัญหาในที่ทำงาน สภาวะทางเศรษฐกิจและสังคม ที่มีความ แปรปรวน ขาดความมั่นคง ด้วยสภาพแวดล้อมและสภาพสังคมที่สับสนวุ่นวายเช่นนี้ ทำให้ผู้คนในปัจจุบันมักละเลยการดูแลเอาใจใส่ต่อสภาพจิตใจของตนเอง ทำให้จิตใจเราอ่อนแอ เกิดความเครียดได้ง่าย
ด้วยปัญหาแวดล้อมที่อยู่รอบตัว ส่งผลต่อจิตใจที่อ่อนแอ เปราะบาง แล้วยังกระทบถึงร่างกาย ดังคำกล่าวที่ว่า "ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว" เช่น ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายแปรปรวน อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ อาทิ ความดันโลหิตสูง โรคกระเพาะอาหาร ภูมิแพ้ หอบหืด ปวดศีรษะ ไมเกรน เป็นต้น ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุทำลายความสุขในชีวิตของเรา ดังนั้นเราจึงต้องดูแลสภาพจิตใจของเราให้เข้มแข็งและพร้อมที่จะเผชิญหน้า เพื่อให้ผ่านปัญหาต่าง ๆ ไปได้
การแสวงหาความสุขของคนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน หนีไม่พ้นการสร้างความสุขจากการที่ได้ครอบครองวัตถุ ซึ่งเป็นเหตุผลทำให้ยิ่งต้องมุ่งมั่นหาเงินให้มาก เพื่อที่จะได้มีกำลังซื้อและสรรหาสิ่งต่าง ๆ มาสนอง ความต้องการของตน ได้อย่างเต็มที่ ทำให้ชีวิตคนในปัจจุบันต้องวนเวียนอยู่ใน วัฎจักรของการแสวงหาที่ไม่มีวันสิ้นสุด ขณะเดียวกันก็ตกอยู่ในสภาวะที่ตึงเครียด สับสนในชีวิตด้วยขาดความเข้าใจในวิธีการสร้างความสุขให้กับชีวิตได้อย่างแท้ จริง ด้วยเหตุนี้เราจึงควรมีแนวทางการสร้างความสุขด้วยใจ เพื่อการพบความสุขที่แท้จริง...
รายงานวิจัยต่าง ๆ ได้สรุปไว้ว่า ผู้ที่มีความสุขมักจะประสบความสำเร็จมากกว่าบุคคลอื่น ๆ ที่ เป็นเช่นนั้นเนื่องจาก คนที่มีความสุขมักจะมองโลกในแง่ดี เข้าสังคมได้ง่าย เป็นที่ชื่นชอบ มีความตื่นตัวและมีพลัง ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ คือ ปัจจัยที่สำคัญที่นำทางให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ แล้วทำอย่างไรล่ะ ที่เราจะมีความสุขได้ โดย Joanna Brandi ได้เสนอ 8 วิธี ในการสร้างเสริมความสุข ได้แก่
1) การมองในแง่ดี (optimism) มีงานวิจัยกล่าวว่า คนที่มองในแง่ดีมีอายุยืนยาวกว่าคนที่มองในแง่ไม่ดี ถึง 10 ปี
2) การแสดงความขอบคุณ (gratitude) การแสดงความขอบคุณต่อผู้อื่นด้วยความจริงใจ ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ดีรอบข้างและเป็นวัฒนธรรมที่ดีในสังคม
3) ให้อภัย (forgiveness) การสร้างความสงบสุข เป็นหนทางแห่งความสุข
4) พัฒนาตนเองทางการพูด (improve yourself- talk) การพูดในทางบวกช่วยลดความเครียดและทำให้สมองผ่อนคลาย มีความคิดสร้างสรรค์ และแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้
5) ปลดปล่อย (flow) ลืมสิงที่ไม่ดี ปล่อยให้มันผ่านไป การลืม เป็นวิธีหนึ่งที่ส่งเสริมความสุขที่ดี
6) มีความสุขหรือเพลิดเพลินกับสิ่งที่ทำ (savor) ความ เพลิดเพลินกับสิ่งที่ทำ เราสามารถสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทั้งก่อนที่เราจะลงมือทำ ขณะที่ทำ และคิดถึงมัน หลังจากงานได้ลุล่วงไปแล้ว
7) มองมุมใหม่ (reframe) การมองสิ่งเดิมในมุมใหม่ ๆ จะช่วยให้ความคิดทางลบเปลี่ยนแปลงไปในทางบวกมากขึ้น
8) การสร้างความสุขจากสิ่งที่เราทำได้ดี (building on strength) ความสุขนั้นจะเป็นความสุขที่ยั่งยืนถ้าเป็นความสุขที่เราได้ทำสิ่งที่เราทำ ได้ดี หาโอกาสทำในสิ่งที่ตนเองทำได้ดีแล้วคุณจะไม่เบื่อและมีความสุข
เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนเกิดมาจะมีทั้งทุกข์และสุขคละเคล้ากันไปเป็น สีสันของชีวิต หากท่านไม่เคยทุกข์ ท่านก็จะไม่รู้ว่าความสุขดีกว่าความทุกข์อย่างไร และหากท่านไม่เคยมีความทุกข์ ท่านก็จะไม่รู้ว่าความสุขนั้นมีค่าเพียงใด เพราะคนเราหลีกเลี่ยงความทุกข์แล้วเลือกแต่ความสุขไม่ได้ เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับความทุกข์และเรียนรู้ที่จะสร้างความสุข ให้แก่ชีวิต น่าจะเป็นการง่ายกว่าการพยายามหนีจากความทุกข์ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังทุกข์ มีจิตใจที่เข้มแข็งและสร้างความสุขได้ในเร็ววันนะคะ...

ขอขอบคุณข้อมูลจาก lauriermybrand.com

25 วิธี มีความสุขกับเรื่องรอบตัว

ใครว่า "ความสุข" หาได้ยาก ทั้งที่ความจริงแล้วทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ล้วนสามารถมองให้เป็น "ความสุข" ได้ทั้งนั้น ลองอ่านวิธีสร้างความสุขต่อไปนี้ดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่า "ความสุข" เกิดขึ้นง่ายๆ ได้อย่างไร
1.คิดใหม่ ใช้ชีวิตราวกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย คนที่ป่วยหนักใกล้ตายจะไม่ปล่อยเวลาให้สายเกินไปอีกแล้ว จะท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง หรือติดต่อพบปะเพื่อนฝูง เราทุกคนก็ควรตระหนักว่าอาจไม่มี "พรุ่งนี้" ก็ได้
2.จดบันทึกเขียนเล่าเรื่องถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณทุกวัน การจดบันทึกช่วยแก้ปัญหาและขจัดเรื่องไม่ดีที่รกสมองออกไปได้ด้วย
3.มองในแง่มุมอื่นบ้าง ลองคิดว่าคุณอยากให้คนอื่นจดจำคุณในด้านใด หรือหากวันหนึ่งต้องเล่าเรื่องชีวิตตนเองให้หลานๆ ฟัง คุณจะเล่าอะไร แล้วคุณพลาดการนัดกับเพื่อนเพื่อไปดูหนัง ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง เมื่อมองย้อนกลับไป
4.อย่าให้เรื่องเล็กน้อยกวนใจ ไม่คุ้มหรอกที่จะหัวเสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หากคนขับรถข้างๆ ไม่ยอมให้คุณเบียดเข้าเลน ก็ยิ้มและโบกมือให้เขาไปเลย
5.ทำงานยากให้เสร็จ ลงมือได้แล้ว อย่าผัดวันประกันพรุ่ง โอ้เอ้ไปก็มีแต่ทำให้หนักใจเหนื่อยกาย ไหนๆ งานนี้ก็ต้องทำโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง ก็น่าจะทำให้เสร็จๆ ไปเลย
6.เลิกทำตัวจำเจ ชีวิตคงน่าเบื่อหากทำอะไรซ้ำซากทุกวันทุกสัปดาห์ เราน่าจะมีเรื่องแปลกใหม่มาทำให้หัวใจกระชุ่มกระช่วยบ้าง เปลี่ยนแปลงตัวเองด้านการแต่งกาย ทรงผม ทานอาหารรสชาติใหม่ๆ
7.อย่าเปรียบตัวเองกับคนอื่น ใครจะมีสระว่ายน้ำ บ้านหลังใหญ่ๆ รถหรูคันใหม่ ไม่ต้อง สนใจ หากดูให้ดีๆ คุณอาจพบว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องทำงานสัปดาห์ละเจ็ดวัน ไม่มีเวลาเจอคนในบ้านหรือเพื่อนฝูง หรืออาจต้องผ่อนหนี้สินไปอีกหลายสิบปี
8.กำจัดข้าวของรกบ้าน เสื้อผ้า ของเล่น หนังสือเก่าที่ไม่ใช้แล้ว ยกไปบริจาคเถิด ได้บุญกุศล
9. รู้จักเอ่ยคำว่า "ไม่" ไม่ต้องลงมือทำเองทุกเรื่อง เพราะชีวิตคุณก็วุ่นวายพออยู่แล้ว
10. รดน้ำต้นรัก รักคู่ครองของคุณอย่างที่เขาเป็น ที่คุณคิดว่าเขาเปลี่ยนไปนั้นเป็นความจริงหรือทุกอย่างเมื่อใช้งานไปได้ระยะ หนึ่งก็ต้องบำรุงรักษาเป็นของธรรมดาความสัมพันธ์ฉันสามี
11.อย่าให้ความคุ้นเคยกลายเป็นไม่ไว้หน้า หากคุณให้เกียรติเพื่อน หรือผู้อื่น คู่ครอง และคนในครอบครัว คุณก็ควรได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน
12.มอบความรักให้คู่ครอง ครอบครัวและเพื่อนๆ อย่าเขินที่จะบอกคนเหล่านี้ว่า คุณ "รัก" พวกเขาตรงไหน เมื่อเขาทำอะไรดีๆ ก็กล่าวคำชื่นชมบ้าง คำชมเล็กๆ น้อยๆ ไม่เคยทำร้ายใคร
13.อย่ารับปรับทุกข์ทุกเรื่อง หากปัญหาของเพื่อนเริ่มมีผลกระทบต่อตัวคุณก็ไม่ต้องฝืน ทำตัวเป็นเสาหลักให้เขาพิงอยู่เรื่อยไป ให้เพื่อนหัดแก้ปัญหาและก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยตัวเอง
14.ติดต่อเพื่อนเก่า ยังไม่สายเกินไปที่จะโทรศัพท์ ส่งอีเมล์ หรือเขียนจดหมายถึงเขา ส่ง SMS
15.บำรุงอารมณ์ด้วยสีเขียว ตัดดอกไม้สดจากสวน หรือตื่นแต่เช้าไปตลาดซื้อดอกไม้ที่สดใสนำมาใส่แจกัน
16.ไปทะเลกันดีกว่า ทิวทัศน์กว้างไกล สายลม เกลียวคลื่น สองเท้าเปลือยเปล่าย่ำบนผืนทราย และแสงแดดลูบไล้แผ่นหลัง ไม่มีอะไรทำให้จิตใจเริงรื่นชื่นบานได้ดีกว่านี้อีกแล้ว
17.สร้างสรรค์ผลงาน จะเป็นภาพเขียน เย็บปักถักร้อย อบขนม จัดสวน หรืออะไรก็ได้
18.สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกไปข้างนอกหรือเปิดหน้าต่างกว้างๆ สูดหายใจให้เต็มปอด คุณจะรู้สึกว่าอากาศเสียถูกขับออกจากตัว
19.ออกไปเดินเล่น การออกกำลังกายเบาๆ จะช่วยเติมชีวิตชีวาให้คุณ ทั้งร่างกายและจิตใจ
20.ดูหนังตลก และหัวเราะให้สบายใจ
21.ย้ายเครื่องเรือนและของแต่งบ้าน หรืออาจทาสีห้อง และผนังใหม่ด้วย
22.รอคอยสิ่งดีๆ เช่น วันหยุดพักร้อน ออกท่องราตรีกับเพื่อนฝูง ไปดูหนัง ฟังเพลง หาร้านอาหารอร่อยๆ ที่ไม่เคยไป รอโทรศัพท์จากคนรู้ใจ
23.ชวนเพื่อน/คนรู้จัก หรือใครก็ได้ มากินมื้อค่ำ จัดห้อง โต๊ะอาหารที่บ้านให้แปลกไปจากเดิม เสริฟ์เครื่องดื่มค็อกเทล เปิดเพลงเสริมบรรยากาศ สนุกกับการเตรียมอาหาร ทุกคนจะปลาบปลื้มหากเห็นว่าคุณทุ่มสุดฝีมือ แล้วค่ำคืนนั้นก็จะครึกครื้น
24.ยิ้มไว้ ยิ้มเป็นโรคติดต่อ ไม่เชื่อลองยิ้มดูสิ
25.ทำให้คนอื่นมีความสุขบ้าง ทำเพื่อตัวเองมามากแล้วก็น่าจะทำเพื่อคนอื่นบ้าง อาสาช่วยงานกุศล บริจาค พากันไปท่องเที่ยวหาความสุข หรือช่วยทำอะไรก็ได้ที่ทำให้คนอื่นมีความสุข
เห็นไหมว่า การสร้างความสุขไม่ใช่เรื่องยากเลย หากเราใช้สติสักนิด ปรับเปลี่ยนทัศนคติสักหน่อย แล้วหาเรื่องชวนยิ้มที่อยู่รอบๆ ตัวเราให้เจอ "ความสุข" มันอยู่ใกล้แค่เอื้อมจริงๆ
ข้อมูลจาก :  Forward Mail

วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Cant Help Falling in Love

ศิลปิน : Elvis Presley

อัลบั้ม : อัลบั้ม Promises and Lies
คำร้อง/ทำนอง : George David Weiss/Hugo E. Peretti/Luigi Creatore
C      G Am      F  Am  G 
Wise man say only fools rush in
     F      G      Am      F         C     G     C
But I, I can-t help falling in love with you.
C      G   Am         F    Am   G
Shall I stay would it be a sin
   F     G     Am      F          C     G     C
If I, I can-t help falling in love with you.
Em               Am
Like a river flows 
Em   Am
Surely to the sea
Em                  Am
Darling as we know
D7                                             G         
Some things where ment to be 
D      A    Bm       G       Bm        Am
Take my hand take my whole life to
      G    Am      Bm     G       D     A     D
But I, I can-t help falling in love with you.
      G    Am      Bm     G        D       A         D
But I, I can-t help falling.....In....love...With....You.
 
http://www.chordguitar.net

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

reasons why diet cola is better than a MAN…

reasons why diet cola is better than a MAN


1. A diet cola is satisfying all the time.

2. You can dump a diet cola when you've had enough.

3. It generally lasts longer.

4. It's available in a variety of size.

5. You only need one.

6. Diet cola comes in a can, not in your mouth.

7. When you swallow a diet cola, you only get 1 calorie.

8. A diet cola doesn't dirty your sheets or dishes.

9. A diet cola will silently and patiently wait for you.

10. You can ignore a diet cola for days and it will still be there when you want it.

11. A diet cola respects you as much at night as it does in the morning.

12. When you swallow a diet cola, it doesn't leave an aftertaste in your mouth.

13. People don't talk if you've had 3 or 4 of them.

14. No privacy is needed to enjoy one.

15. Even if you spill one in bed, it won't make you sleep in a wet spot.

16. You can have a headache and enjoy it.

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ดวงจำปา..อรวี สัจจานนท์

เตาเผาถ่าน 200 ลิตร และการเผาถ่าน

น้ำส้มควันไม้

Bottle Rescue in Chile "Installing bottle lights for a rural family" -Pa...

Sucker Punch หนังกำลังหามาดู แต่ที่ชอบคือโปสเตอร์สีสวย

Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch




ตัวอย่างหนัง Sucker Punch





อีหนูดุทะลุโลก (Warner Bros.Pictures)

กำหนดฉาย
: 24 มีนาคม 2554
กำกับ : แซ็ค สไนเดอร์
เว็บไซต์ทางการภาพยนตร์ไทย

          หลับตาทั้งสองข้าง เปิดใจให้กว้าง คุณไม่มีทางจะได้ตั้งตัว

          ภาพยนตร์ เรื่อง Sucker Punch เป็นภาพยนตร์มหากาพย์แอ็คชั่นแฟนตาซี ที่พาเราเข้าสู่จินตนาการที่สดใสของหญิงสาวคนหนึ่ง ผู้มีโลกแห่งความฝันที่ในตอนท้าย ได้พาเธอหลบหนีออกจากโลกแห่งความจริงที่โหดร้าย โดยไม่อาจขีดจำกัดด้วยห้วงเวลาหรือสถานที่ เธอไปที่ไหนก็ได้ทุกหนทุกแห่งตามที่ใจจะพาเธอไปอย่างเป็นอิสระ และการผจญภัยอันเหลือเชื่อที่ไม่มีความชัดเจน ระหว่างเส้นแบ่งของโลกแห่งความจริงกับโลกแห่งจินตนาการ

          เธอถูกกักขังอย่างยอมจำนน แต่เบบี้ดอล (อีมิลี่ บราวนิ่ง) กลับไม่สูญสิ้นความตั้งใจที่จะอยู่รอดต่อไป เธอต่อสู้เพื่ออิสรภาพอย่างเด็ดเดี่ยว เธอผลักดันหญิงสาวทั้ง 4 ได้แก่ ร็อคเก็ต หญิงสาวช่างพูด (จีน่า มาโลน), บลอนดี้ ผู้มีไหวพริบ (วาเนสซ่า ฮัดเจนส์), แอมเบอร์ ผู้ซื่อสัตย์และดุดัน (เจมี่ ชุง) และ สวีทพี ผู้ลังเล (แอ็บบี้ คอร์นิช) มารวมตัวกัน เพื่อพยายามหนีจากชะตากรรมอันโหดร้ายจากเงื้อมมือของผู้คุมตัวของพวกเขาอย่าง บลู (ออสการ์ ไอแซ็ค), มาดาม กอร์สกี (คาร์ล่า กูกิโน่) และ เดอะ ไฮ โรลเลอร์ (จอน แฮมม์)

          ด้วยการนำทีมของเบบี้ดอล เหล่าสาวๆ ต้องต่อสู้ในสงครามประหลาด เผชิญหน้ากับทุกสิ่งตั้งแต่นักดาบซามูไรไปจนถึงงูยักษ์ด้วยอาวุธและกองกำลัง ของพวกเธอทั้งหมด พร้อมกันนั้นพวกเธอยังต้องเลือกว่า จะยอมสังเวยสิ่งใดไปเพื่อความอยู่รอด โดยมีความช่วยเหลือจาก ไวส์ แมน (สก็อตต์ เกล็นน์) หากพวกเธอทำให้สำเร็จได้ การเดินทางอันน่าเหลือเชื่อจะปลดปล่อยพวกเธอให้เป็นอิสระ


          ภาพยนตร์เกิดขึ้นจากมุมมองการสร้างสรรค์ของผู้สร้างภาพยนตร์ แซ็ค สไนเดอร์ (Watchmen, 300), ภาพยนตร์เรื่อง Sucker Punch มีการรวมเหล่านักแสดงสาวที่โดดเด่น ประกอบด้วย อีมิลี่ บราวนิ่ง (The Uninvited), แอ็บบี้ คอร์นิช (Bright Star), จีน่า มาโลน (Into the Wild), วาเนสซ่า ฮัดเจนส์ (ภาพยนตร์เพลงเรื่อง High School Musical) และเจมี่ ชุง (Sorority Row) นักแสดงคนสำคัญของภาพยนตร์ ยังรวมถึงออสการ์ ไอแซ็ค (Robin Hood) และคาร์ล่า กูกิโน่ (Watchmen) ร่วมกับจอน แฮมม์ (The Town, ภาพยนตร์ทางทีวีเรื่อง Mad Men) และสก็อตต์ เกล็นน์ (The Bourne Ultimatum)

          แซ็ค สไนเดอร์ ทำการกำกับภาพยนตร์เรื่อง Sucker Punch จากบทภาพยนตร์ที่เขาเขียนร่วมกับสตีฟ ชิบูย่า โดยสร้างขึ้นจากเรื่องราวของสไนเดอร์ สไนเดอร์และเดโบราห์ สไนเดอร์ อำนวยการสร้างร่วมกับโธมัส ทัล, วีสลีย์ คอลเลอร์, จอน แจชนี่, คริส เดอฟาเรีย อำนวยการสร้างบริหารโดยจิม โรว์ และ วิลเลียม เฟย์

          ทีมผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ที่สร้างสรรค์ ประกอบด้วยริค คาร์เตอร์ ผู้ออกแบบฉากที่คว้ารางวัล Academy Award® (Avatar) และแลร์รี่ ฟอง ผู้กำกับภาพที่โชกโชนประสบการณ์ จากภาพยนตร์เรื่อง Watchmen และ 300 ผู้ลำดับภาพ วิลเลียม ฮอย และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ไมเคิล วิลคินสัน ดนตรีโดยไทเลอร์ เบตส์ และ มารีอุส เดอรีส์

          วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส นำเสนอภาพยนตร์ร่วมกับ เลเจนดารี่ พิกเจอร์, a Cruel and Unusual Production ในภาพยนตร์ของแซ็ค สไนเดอร์ เรื่อง Sucker Punch ภาพยนตร์เริ่มเปิดตัวทั่วโลกวันที่ 24 มีนาคม 2011 โดยมีการจัดจำหน่ายทั่วโลกโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส หนึ่งในกลุ่มบริษัท วอร์เนอร์ บราเดอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ 




Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch

Sucker Punch 
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
http://movie.kapook.com/view20663.html

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การสร้างเตาอิวาเตะอย่างง่าย

เตาอิวาเตะเป็นเตาเผาถ่านที่ง่ายที่สุดให้ผลเป็นที่น่าพอใจ เมื่อเผาเศษชิ้นไม้เต็ม 1 ถัง ขนาด 200 ลิตร ได้ถ่านประมาณ 15 – 20 กิโลกรัม ได้น้ำส้มควันไม้ประมาณ 5 ลิตร ขึ้นอยู่กับความชื้นของไม้
อุปกรณ์
1. ถังน้ำมันที่เป็นเหล็กขนาด  200 ลิตร                       1 ใบ
2. ท่อใยหินเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 ซ.ม.  ยาว 1 ม.         1 ท่อน
3. ข้องอปูน 90 องศา                                                  1 อัน
4. อิฐบล็อก                                                                 5 ก้อน
5. อิฐมอญ (อิฐแดง)                                                   1 ก้อน
6. อิฐมอญแดงขนาดเล็ก                                            2 ก้อน
7. หน้าดินหรือดินปลวก                                            1.5 ลูกบาศก์เมตร
8. ขี้เถ้าแกลบ                                                              1 ลูกบาศก์เมตร
9. ไม้ไผ่เส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า  7.5 ซ.ม.  ยาว 5 ม.  เจาะรูให้ทะลุทุกปล่อง ยกเว้นปล่องสุดท้ายไม่ต้องเจาะ
10. ไม้ทำหลัก                                                             8 ท่อน
11. สังกะสีหรือกระเบื้องที่ใช้แล้ว เพียงพอสำหรับล้อมรอบเตาด้านหลัง
12. ตะปู                                                                  3 – 4  ตัว
13. ทราย                                                                     1 ลูกบาศก์เมตร
14. ผ้าขี้ริ้วสำหรับทำลูกประคบ                                   1 ผืน

เครื่องมือ
1. เลื่อยคันธนู                    1 ปื้น
2. จอบ                               1 ด้าม
3. พลั่ว                               1 ด้าม
4. เกรียงเหล็ก                    1 อัน
5. มีดอีโต้ / เหล็กสกัดปูน  1 ด้าม
6. มีดพร้า                           2 ด้าม
7. เหล็กแชลง                     1 อัน
8. ค้อนปอนด์                     1 อัน
9. บุ้งกี้                                1 ใบ
10. ถังน้ำ                            1 ใบ
11. ตลับเมตร                     1 อัน
12. ตะปูขนาด 7.5 เซนติเมตร (3 นิ้ว)   8  ตัว  หรือ 10 เซนติเมตร (4 นิ้ว)

วิธีทำ
1. เจาะที่ฝาถัง 200 ลิตร (ตรงฝาเปิด ใส่น้ำมัน) เป็นวงกลมให้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เซนติเมตร เพื่อใส่ข้อต่อท่อใยหินขนาด 10 เซนติเมตร ที่จะต่อกับท่อใยหิน เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เซนติเมตร เช่นกัน
2. ตัดฝาถัง 200 ลิตร ตามแนวขอบออกไว้ทำฝาถัง เพื่อสะดวกเรียงไม้เผาถ่านในเตา
3. เจาะที่ฝาถัง 200 ลิตรที่ได้ในข้อ 2 ให้มีขนาด 20×20 เซนติเมตร ให้ทำเป็นปากเตาปล่อยอากาศเข้า
4. เจาะรูด้านล่างของถังตรงตำแหน่ง ตรงกับช่องใส่ข้องอใยหิน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เซนติเมตร เพื่อระบายน้ำที่ระเหยออกมาระหว่างการเผา
5. เจาะรูตรงข้องอขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เซนติเมตร เพื่อระบายน้ำที่กลั่นในท่อใยหิน
6. วางถังที่ตัดแล้วนอนลง เพื่อติดตั้งปล่องควันและกลบตัวถังด้วยดินหรือทราย เพื่อทำหน้าที่เป็นฉนวนความร้อน โดยให้ปากเตาสูงกว่าก้นเตาประมาณ 6 เซนติเมตร (โดยใช้อิฐมอญ 1 ก้อนรองปากเตา)
วิธีการเผาถ่าน
1. ตัดไม้ที่ใช้เผาถ่าน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 – 5 เซนติเมตร มีความยาว 75 – 80 เซนติเมตร บรรจุใส่ถังในแนวนอน ถ้าไม่ใหญ่เกินไปให้ผ่าเสียก่อน โดยเรียงไม้ขนาดเล็กอยู่ด้านล่างให้ไม้ขนาดใหญ่อยู่ด้านบน เพราะความร้อนวิ่งผ่านด้านบนก่อน จะทำให้เกิดถ่านพร้อมกับไม้เล็กๆด้านล่าง ถ้าไม้เล็กอยู่ด้านบนจะไหม้เป็นขี้เถ้าเสียก่อน
2. ปิดฝาถังที่ทำด้วยฝาถังน้ำมัน ให้ปากเตาอยู่ด้านล่างโบกด้วยดินคลุกกับขี้เถ้าแกลบไม่ให้มีรอยรั่ว
3. นำดินที่คลุกด้วยขี้เถ้าแกลบ ใส่ในช่องของอิฐบล็อกทั้ง 5 ก้อนให้เต็ม
4. นำอิฐบล็อกมาทำช่องเพื่อก่อไฟที่ปากเตา โดยใช้อิฐ 2 ก้อน วางในแนวขนานกันออกจากปากเตาด้านแคบตั้งขึ้น ใช้อิฐอีก 2 ก้อนวางด้านแบนลง แล้วปิดรอยรั่วทั้งหมดโดยดินที่คลุกด้วยแกลบ
5. จุดไฟที่ปากเตาเป็นการเริ่มต้นการเผาถ่าน เมื่อเชื้อเพลิงที่หน้าเตาติดไฟแล้ว ปล่อยให้ไอร้อนวนอยู่ในเตา เพื่อไล่ความชื้นออกจากไม้ฟืนที่บรรจุในเตาจนได้ถ่าน เวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับความชื้นในไม้ (ไม้สดหรือไม้แห้ง)
6. เก็บน้ำส้มควันไม้ที่ปล่องควัน โดยสังเกตสีของควัน

อุณหภูมิและขั้นตอนการเปลี่ยนเป็นถ่านในเตาอิวาเตะ

สีของควัน

สีของควันที่กลั่นตัวติดกระเบื้องเคลือบ

อุณหภูมิ
ที่ปล่องควัน

อุณหภูมิภายในเตา( 10 ซม. ต่ำจากเพดานเตา)

หมายเหตุ

ขาวปนเหลืองอ่อน
(ควันบ้า)

หยดน้ำใส

80 82  ํC

320 – 350 C

เริ่มขั้นตอนเปลี่ยนแปลงถ่าน

น้ำตาลปนเทา

ของเหลวสีน้ำตาล

82 85 ํC

350 380 ํC

เริ่มเก็บน้ำส้มควัน

น้ำตาลปนเทา
น้ำตาลปนขาว

ของเหลวสีชา
ของเหลวสีน้ำตาล
เป็นเส้นเล็กๆ


90 100 ํC
100 150 ํC

380 400 ํC

400 430 ํC

น้ำส้มควันไม้เข้มและ
มีความหนืดมาก


น้ำตาลปนขาว


ของเหลวสีน้ำตาล
เป็นเส้นใหญ่ๆ

150 170 ํC

430 450 ํC

หยุดเก็บน้ำส้มควันไม้

น้ำตาลปนขาว
น้ำเงินอ่อนปนขาว
น้ำเงินปนขาว

ของเหลวสีน้ำตาล
เป็นจุด


150 170 ํC
230 – 250 C
260 – 300 C

450 – 500 C

500 – 530 C
540 – 570 C

ขั้นตอนเปลี่ยนถ่าน
เสร็จสิ้นสมบูรณ์

ม่วงน้ำเงิน

จุดสีเทา  ไม่มีความชื้น

330 – 350 C

600 – 650 C

เริ่มขั้นตอนทำให้ถ่านบริสุทธิ์

ควันใส

สีเทาไม่มีจุด



700 – 800 C

ปิดเตา

 ที่มา : ขนิษฐ์ ทวีการ.(2526). ถ่านไม้และน้ำส้มควันไม้. ชมรมสวนป่า ผลิตภัณฑ์และพลังงานไม้.
เอกสารอ้างอิง :
 นิคม แหลมลัก.(2551). เอกสารประกอบการฝึกอบรม เรื่องการใช้ประโยชน์จากไม้โตเร็วเพื่อการผลิตถ่าน และน้ำส้มควันไม้เพื่อใช้ในครัวเรือน. กรังเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
 ขนิษฐ์ ทวีการ.(2526). ถ่านไม้และน้ำส้มควันไม้. ชมรมสวนป่า ผลิตภัณฑ์และพลังงานไม้.
 สุพรชัย มั่งมีสุทธิ์. การผลิตน้ำส้มควันไม้และการสร้างเตาเผาถ่านจากถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร. นครปฐม : มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คลินิกเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
เบอร์โทรศัพท์   073-227-150-161 ต่อ 9902
E-mail    t_uttayarat@yahoo.com, orawann@yala.yru.ac.th   Website  http://yalor.yru.ac.th/%7Eclinictech/

การเผาถ่าน - กลุ่มเด็กทำเตาอิวาเตะ

การเผาถ่าน - ผลิตเตาเผาถ่านอิวาเตะ

การวิจัยน้ำส้มควันไม้

การวิจัยน้ำส้มควันไม้
มูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดงร่วมกับ คณะอาจารย์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ และมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ร่วมวิจัย เรื่อง น้ำส้มควันไม้

เมื่อวันเสาร์ ที่ 20 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา มูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง นำโดย
ดร.รุ่ง แก้วแดง ประธานมูลนิธิฯ นางเอมอร ยอดรักษ์ เลขานุการมูลนิธิฯ พร้อมด้วย
นายภากร นิจจรัลกุล ประธานกรรมการที่ปรึกษามูลนิธิฯ และนายมณัส ศุภชีวะกุล กรรมการมูลนิธิฯ ได้ต้อนรับคณะอาจารย์ และทีมวิจัย จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ นำทีมโดย ผศ.ดร.จันทิมา ชั่งสิริพร อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมเคมี และมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา นำทีมโดย ผศ.ดร.อับดุลนาเซร์ ฮายีลาเต๊ะ มาศึกษาดูงาน เตาอิวาเตะและการผลิตน้ำส้มควันไม้ ของมูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง ซึ่งเป็นเตาอิวาเตะที่สมบูรณ์ และมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อทำวิจัย และพัฒนาสู่สังคมต่อไป

ดร.รุ่ง แก้วแดง ได้บรรยายสรุปในประเด็น เตาอีวาเตะของมูลนิธิฯ กล่าวว่า เตาอีวาเตะของที่นี้ มีขนาดใหญ่และมีความพิเศษกว่าที่อื่น ซึ่งมีด้วยกัน 2 แบบ คือ 1.เตาอิวาเตะขนาดใหญ่ เรียกว่า เตาอิวาเตะอุตสาหกรรมชุมชน และ 2.เตาอิวาเตะขนาดเล็ก หรือขนาดครัวเรือน ได้มีการลองผิดลองถูกมาโดยตลอด เพื่อพัฒนาให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพมากที่สุด โดยที่เตาอีวาเตะทั้ง 2 แบบสามารถผลิต ผลผลิตในเวลาเดียวกันได้ 2 อย่าง
1.ได้ถ่านที่มีคุณภาพสูง และ 2. ได้น้ำส้มควันไม้ที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นประโยชน์ในด้านการเกษตร ด้านการประมง ด้านปศุสัตว์ และใช้กับมนุษย์ได้อีกด้วย

หลังจากนั้น ดร.รุ่ง แก้วแดง ได้พาชมส่วนต่างๆของเตาทั้ง 2 แบบ และได้บรรยายในขั้นตอนการสร้างโรงเตา กระบวนการเผาถ่านและขั้นตอนในการเก็บน้ำส้มควันไม้ ทั้งเตาขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่น่าสนใจของคณะอาจารย์และทีมวิจัยเป็นอย่างมาก และได้มีการสอบถามเรื่องราวต่างๆของเตาอิวาเตะของมูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน

ก่อนกลับดูเตาอิวาเตะ ดร.รุ่ง แก้วแดง ได้กล่าวอีกว่า โรงเตาอิวาเตะของที่นี่จะเป็นห้องแล็ปขนาดใหญ่ของคณะวิจัยที่สนใจ รวมทั้งขณะอาจารย์และทีมวิจัยที่มาในวันนี้ด้วยเพื่อวิจัยในมิติต่างๆของเตาอิวาเตะและผลผลิตของ
เตาอิวาเตะเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

หลังจากนั้นได้มีการเสวนาพูดคุยกันต่อถึงงานวิจัยของคณะอาจารย์และทีมวิจัยที่เกี่ยวกับเตาอิวาเตะในประเด็นต่างๆเพื่อพัฒนาเตาอิวาเตะไปสู่ชุมชน การพัฒนาผลผลิตของเตาอิวาเตะ และน้ำส้มควันไม้ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อไปใช้ในด้าน
การเกษตร ด้านการประมง ด้านปศุสัตว์ และสกัดเป็นยาต่างๆใช้กับสัตว์และมนุษย์ต่อไป

ในการพูดคุยได้มีการตั้งโจทย์ต่างๆมายกเป็นประเด็นในงานวิจัย เช่น การเผาถ่าน โดยใช้ต้นไม้ยางพาราร้อยทั้งหมด กับการใช้ต้นไม้ยางพาราร่วมกับยางพาราดิบ ว่าคุณภาพของน้ำส้มควันไม้แตกต่างกันอย่างไร และการนำน้ำมันดินที่ตกตะกอนจากการพักน้ำส้มควันไม้ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งมาใช้ประโยชน์ต่อไปอย่างไร เป็นต้น

ผศ.ดร.อับดุลนาเซร์ ฮายีลาเต๊ะ อาจารย์ภาควิชาเคมีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา กล่าวว่า จากการมาดูงานที่มูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง กับทีมวิจัยในวันนี้ซึ่งเป็นสถานที่ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนเป็นอย่างยิ่ง มาดูการเผาถ่าน การเก็บน้ำส้มควันไม้ และงานอื่นๆเกี่ยวกับการฝึกอบรม ชุมชนสามารถใช้ประโยชน์ และใช้บริการจากที่นี่ได้เป็นอย่างดี ทางทีมงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลามาช่วยกันทำเรื่องการวิจัยโดย
เฉพาะเชิงวิชาการเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการของมูลนิธิฯ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ควรที่จะสนับสนุนในงานด้านต่างๆเพื่อให้เกิด
ประโยชน์สูงสุดต่อสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

ผศ.ดร.จันทิมา ชั่งสิริพร อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมเคมี อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมเคมี มหาวิทยาลัยสงขลานรินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ กล่าวว่า ก่อนมาคิดไม่ออกว่าที่นี้เป็นอย่างไร พอมาแล้วรู้สึกดีที่นี้ร่มรื่นมาก ที่นี้หน้าจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางคณะเองสามารถช่วยอะไรได้ก็จะช่วย โดยเฉพาะงานวิจัย ได้ช่วยชาวบ้านมีอยู่มีกิน เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงก็จะช่วยอย่างเต็มที่ และวันนี้มาดูการผลิตน้ำส้มควันไม้เพื่อมาทำวิจัยการแยกน้ำมันดิบ จากน้ำส้มควันไม้ ซึ่งทำสำเร็จมาระดับหนึ่งแล้ว โดยนำไปให้ชาวบ้านในชุมชน แล้วได้ผลเป็นอย่างดี ทางมูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง มีโรงเตาผลิตน้ำส้มควันไม้ที่สมบูรณ์ และใหญ่ รู้สึกว่าใหญ่ที่สุดในประเทศเลยที่เดียว คิดว่าจะเอาเครื่องมือที่คิดได้ น่าจะเป็นนวัฒกรรมทางด้านวิศวกรรมเคมีมาประยุกต์ กับมูลนิธิฯ คิดในเรื่องต้นทุนการผลิต แล้วสามารถนำไปใช้กับชุมชนได้เพื่อแก้ปัญหาคุณภาพน้ำส้มควันไม้ที่ผลิตออกมา และวันนี้ได้โจทย์ของปัญหาต่างๆ ที่สามารถนำเอาความรู้ ความสามารถของวิศวกรรมเคมีพร้อมด้วยทีมงาน คิดว่าน่าจะช่วยได้ในหลายๆ ด้าน และยินดีที่จะได้มาร่วมงานกับมูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง

สุดท้ายทีประชุมเสวนาตกลงกันว่าจะร่วมกันจัดสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง น้ำส้มควันไม้ ในกลางปี 2552 หวังว่าในการจัดสัมมนาครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจ และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Playboy Colombia 2011-06

4 อย่าของท่าน ว.วชิรเมธี

๑. อย่าเป็นนักจับผิด คนที่คอยจับผิดคนอื่นแสดงว่าหลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง ' กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก ' คนที่ชอบจับผิดจิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาสจิตประภัสสรฉนั้นจงมองคน

มองโลกในแง่ดี แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็นก็เป็นสุข

๒. อย่ามัวแต่คิดริษยา ' แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน '

คนเราต้องมีพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

คนที่เรามีความริษยาเป็นการส่วนตัวมีชื่อว่าเจ้ากรรมนายเวร ถ้าเขาสุขเราจะทุกข์ ฉนั้นเราต้องถอดถอนความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยาเป็นไฟสุมขอน เราริษยา 1 คนเราก็มีไฟสุมขอน 1 ก้อน เราสามารถถอดถอนไฟริษยาออกจากใจเราได้ด้วยการ แผ่เมตตา หรือซื้อโคมาแล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา และปล่อยไป

๓. อย่าเสียเวลากับความหลัง 90% ของคนที่เป็นทุกข์เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก

เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาแล้วแบกเครื่องเคราเต็มหลัง ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้วจงปล่อยมันซะ อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน อยู่กับปัจจุบันให้เป็น ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี สติ กำกับอยู่ตลอดเวลา

๔. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ ตัณหาที่มีปัญหา คือการอยากเกินความพอดี

เหมือนทะเลที่ไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ ธรรมชาติของตัณหาคือ

ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม ทุกอย่างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่คุณค่าเทียม เช่น นาฬิกามีไว้เพื่อใส่ดูเวลาไม่ใช่เพื่อความโก้หรู หรือคุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือมีไว้เพื่อการสื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าแท้ของโทรศัพท์ เราต้องถามตัวเองว่าเกิดมาทำไม คุณค่าที่แท้จริงของมนุษย์อยู่ตรงไหน ตามหาแก่นของชีวิตให้เจอ

คำว่า พอดี คือรู้จัก พอ แล้วจะ ดี รู้จกพอจะมีชีวิตอย่างมีความสุข



ลานธรรมจักร

Maxim Magazine USA - August 2011

ผล Exit Poll เลือกตั้ง 2554 ออกมาแล้ว

เพื่อไทยนำ จาก สวนดุสิตโพล์ เอแบคโพล์ และโพล์อื่นๆ
ประชาธิปัตย์ได้ร้อยกว่าที่นั่งและน้อยกว่าเดิม

ดุสิตโพล

อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย จำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อ 66 ส.ส. เขต 247 รวม 313 คน
อันดับ 2 พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อ 45 ส.ส. เขต 107 รวม 152 คน
อันดับ 3 พรรคภูมิใจไทย จำนวนส.ส. บัญชีรายชื่อ 4 ส.ส.เขต 9 รวม 13 คน
อันดับ 4 พรรคชาติไทยพัฒนา จำนวนส.ส. บัญชีรายชื่อ 2 ส.ส.เขต 8 รวม 10 คน
อันดับ 5 พรรคพลังชล จำนวนส.ส. บัญชีรายชื่อ 1 ส.ส.เขต 4 รวม 5คน
อันดับ 6 พรรครักประเทศไทย จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ 3 คน
อันดับ 7 พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 คน
อันดับ 8 พรรครักษ์สันติ จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ 1
อันดับ 9 พรรค มาตุภูมิ จำนวนส.ส. บัญชีรายชื่อ 1 คน


เอแบคโพลล์

อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย 290
อันดับ 2 พรรคประชาธิปัตย์ 140
อันดับ 3 พรรคภูมิใจไทย 28
อันดับ 4 พรรคชาติไทยพัฒนา 14
อันดับ 5 พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 12
อันดับ 6 พรรคพลังชล 6
อันดับ 7 พรรครักประเทศไทย 4
อันดับ 8 พรรค มาตุภูมิ 3
ปัญหาที่ตามมาคือ เดี๋ยวคงมีมุขเดิม ๆ ของพรรค และกลุ่มพวกที่ไม่เคารพในเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนไทย ไม่ยึดมั่นในประชาธิปไตย จะออกมาโจมตีต่อว่าพรรคที่ประชาชนส่วนใหญ่เลือก